ผู้เขียนบทความ นักข่าว ตลอดจนนักเรียนที่เขียนรายงานภาคการศึกษาหรือแปลบันทึกต่างประเทศ มักต้องนับจำนวนคำและอักขระในข้อความที่พิมพ์บนคอมพิวเตอร์ งานนี้ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยตนเองด้วยข้อมูลหลายสิบหน้า ดังนั้นจึงใช้โปรแกรมและบริการพิเศษ
จำเป็น
Microsoft Office Word หรือบริการสะกดคำและนับตัวอักษร (เช่น Advego หรือ Sign reader)
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
หนึ่งในโปรแกรมที่ใช้กันทั่วไปในการสร้างและแก้ไขเอกสารข้อความคือ Microsoft Office Word ในเวอร์ชันของโปรแกรมนี้ ซึ่งเริ่มในปี 2546 จะมีการนับจำนวนอักขระดังนี้ เลือกส่วนของข้อความที่คุณต้องการนับจำนวนอักขระ หากไม่มีการเลือกส่วนใด Microsoft Word จะนับอักขระตลอดทั้งเอกสาร ยกเว้นหมายเลขหน้าและข้อความในส่วนหัวและส่วนท้าย ในเมนูแบบเลื่อนลง "เครื่องมือ" เลือกคำสั่ง "สถิติ" ในหน้าต่างที่ปรากฏขึ้น ระบบจะนับจำนวนอักขระในข้อความหรือข้อความบางส่วน โดยคำนึงถึงและไม่คำนึงถึงช่องว่าง ตลอดจนจำนวนคำ บรรทัดและย่อหน้า
ขั้นตอนที่ 2
ในเวอร์ชันของ Microsoft Office Word 2007 และ 2010 ที่ด้านล่างสุดของหน้าจอ ทางด้านซ้าย ถัดจากการกำหนดหมายเลขหน้า เซลล์ที่มีจำนวนคำจะถูกระบุบนแผงพิเศษ คลิกแล้วคุณจะเห็นกล่องเดียวกันกับจำนวนอักขระในข้อความเช่นเดียวกับใน Word 2003
ขั้นตอนที่ 3
หากคอมพิวเตอร์ของคุณไม่มี Microsoft Office คุณสามารถใช้บริการอินเทอร์เน็ตฟรี เช่น “Advego” และสคริปต์ “Sign Reader”
บริการนับตัวอักษรและตรวจตัวสะกด “Advego” อยู่ที่ www.advego.ru/text. คัดลอกข้อความของคุณลงไป แล้วคุณจะเห็นจำนวนอักขระที่มุมขวาบนของแบบฟอร์มสำหรับวางข้อความ หากคุณคลิก "ตรวจสอบ" บริการจะนับจำนวนช่องว่าง คำและข้อผิดพลา
สคริปต์ "Znokoschitalka" ตั้งอยู่ที่ www.8nog.com/counter/index.php. หลักการเหมือนกัน - แทรกข้อความของคุณลงในแบบฟอร์มว่างแล้วกดปุ่ม "คำนวณ" หลังจากนั้นคุณจะเห็นผลลัพธ์ในคอลัมน์ด้านขวาของไซต์ซึ่งแสดงด้วยจำนวนอักขระที่มีและไม่มีช่องว่างรวมทั้ง จำนวนคำและประโยค