แม้ว่า Adobe Photoshop จะมุ่งเป้าไปที่มืออาชีพ แต่ใครๆ ก็สามารถใช้ได้ สำหรับคนส่วนใหญ่แล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าดึงดูดใจเพราะสิ่งที่ดูเหมือนซับซ้อนนั้นทำได้ง่ายมาก ฟิลเตอร์ชุดใหญ่ช่วยให้คุณสร้างเอฟเฟกต์ที่น่าทึ่งได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะสร้างแสงจ้า ฝน หรือแสงแดดใน Photoshop
จำเป็น
โปรแกรมแก้ไขกราฟิก Adobe Photoshop
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
สร้างภาพใหม่ เลือก "ไฟล์" และ "ใหม่" จากเมนู หรือกดแป้นพิมพ์ลัด Ctrl + N ในกล่องโต้ตอบที่ปรากฏขึ้น ในช่อง "ความกว้าง" และ "ความสูง" ให้ระบุค่า 800 และ 600 ตามลำดับ ในรายการดรอปดาวน์ "โหมดสี" ให้เลือกรายการ "สี RGB" จากรายการแบบเลื่อนลง "เนื้อหาพื้นหลัง" ให้เลือก "โปร่งใส"
ขั้นตอนที่ 2
ตั้งค่าสีพื้นหน้าและพื้นหลัง คลิกที่สี่เหลี่ยมที่แสดงสีพื้นหน้า ในกล่องโต้ตอบ "ตัวเลือกสี (สีพื้นหน้า)" ที่ปรากฏขึ้น ให้เลือกสีขาว คลิกที่สี่เหลี่ยมที่แสดงสีพื้นหลัง ในกล่องโต้ตอบ "ตัวเลือกสี (สีพื้นหลัง)" ให้เลือกสีดำ สี่เหลี่ยมสำหรับสีพื้นหน้าและพื้นหลังอยู่ในแถบเครื่องมือที่ด้านล่าง
ขั้นตอนที่ 3
เติมพื้นที่ภาพทั้งหมดด้วยสีขาว ในการดำเนินการนี้ ให้เลือก "Paint Bucket Tool" และคลิกที่ใดก็ได้บนรูปภาพ
ขั้นตอนที่ 4
ใช้ตัวกรอง "Clouds" กับรูปภาพทั้งหมด เลือกรายการเมนู "Filter", "Render", "Clouds"
ขั้นตอนที่ 5
ใช้ตัวกรอง "Difference Clouds" กับรูปภาพทั้งหมดสองครั้ง คลิกรายการเมนู "ตัวกรอง", "เรนเดอร์", "คลาวด์ที่แตกต่าง" ทำซ้ำการกระทำนี้
ขั้นตอนที่ 6
ปรับปรุงความคมชัดของภาพ ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้ตัวกรอง "เพิ่มความคมชัด" ตัวกรองจะเปิดใช้งานเมื่อคุณเลือกรายการเมนู "ตัวกรอง", "คมชัด", "เพิ่มความคมชัด"
ขั้นตอนที่ 7
ทำให้ภาพเป็นสี เลือกรายการเมนู "รูปภาพ", "การปรับ", "ฮิว / ความอิ่มตัว" หรือกดคีย์ผสม Ctrl + U ในช่องโต้ตอบ "Hue / Saturation" ที่เปิดขึ้น ให้เลือกช่องทำเครื่องหมาย "Colorize" เลื่อนแถบเลื่อน "Hue" จนกว่าคุณจะได้สีสายฟ้าที่ต้องการ เลื่อนแถบเลื่อน "ความสว่าง" เพื่อตั้งค่าความสว่างที่ต้องการ เลื่อนแถบเลื่อน "Saturation" จนกว่าคุณจะได้ค่าความอิ่มตัวของสีที่ต้องการ
ขั้นตอนที่ 8
บันทึกภาพที่ได้ กด Ctrl + S หรือเลือก "ไฟล์" และ "บันทึก…" จากเมนู ในกล่องโต้ตอบ "บันทึกเป็น" ให้ระบุชื่อที่ต้องการ บันทึกเส้นทาง และรูปแบบไฟล์รูปภาพ