แน่นอน ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทุกคนตระหนักดีว่ายิ่งติดตั้ง RAM บนคอมพิวเตอร์มากเท่าไร คอมพิวเตอร์ก็จะยิ่งทำงานได้ดีขึ้นเท่านั้น ขออภัย OS สามารถรองรับได้ในจำนวนจำกัดเท่านั้น
แรมคืออะไร?
หน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่มเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ความเร็วของพีซีขึ้นอยู่กับปริมาณ เช่นเดียวกับความเร็วในการประมวลผลคำขอต่างๆ โดยโปรเซสเซอร์กลาง หาก RAM มีขนาดเล็กเกินไป หน่วยความจำเสมือนก็สามารถแก้ปัญหาได้บางส่วน
RAM ที่รองรับสูงสุด
เมื่อเลือกและซื้อ RAM จำนวนหนึ่ง ผู้ใช้ควรคำนึงถึงจำนวนสูงสุดที่ระบบปฏิบัติการและเมนบอร์ดสามารถรองรับได้ โดยปกติ OS จะมีปัญหา ตัวอย่างเช่น Windows XP รองรับ RAM สูงสุด 4 กิกะไบต์เท่านั้น (สมมติว่าติดตั้งเวอร์ชัน 32 บิต) ในกรณีที่มีมากกว่านั้น OS ก็จะไม่อ่านมันตามลำดับ ส่วนที่เหลือจะไม่ถูกใช้ สำหรับรุ่น 64 บิตนั้นสามารถรองรับ RAM ได้สูงสุด 128 GB น่าเสียดายที่จำนวนการรองรับสูงสุดยังถูกจำกัดด้วยเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการ และไม่เพียงแต่ความบิตของมันเท่านั้น
นอกจากนี้ RAM ส่วนเล็ก ๆ ยังใช้กับอุปกรณ์ที่ใช้ นั่นคือหากผู้ใช้มีระบบปฏิบัติการ Windows XP แบบ 32 บิตและ RAM 4 กิกะไบต์ ประมาณ 400-500 MB จะถูกใช้ไปกับการรับประกันประสิทธิภาพของอุปกรณ์อื่นๆ
สำหรับระบบปฏิบัติการสมัยใหม่ของตระกูล Windows นั้นสามารถทำงานกับ RAM ขนาด 192 กิกะไบต์และ Windows Server 2008 รองรับสูงสุด 2 เทราไบต์ ส่วนขยายดังกล่าวเกิดขึ้นได้ด้วยการใช้พื้นที่ที่อยู่เสมือน ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแต่ละคนสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับจำนวน RAM สูงสุดที่รองรับสำหรับ Windows แต่ละเวอร์ชันได้จากเว็บไซต์ทางการ โดยทั่วไป เพื่อประสิทธิภาพที่ดีของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในปัจจุบัน จำเป็นต้องมี RAM อย่างน้อย 4 กิกะไบต์ (โดยมีเงื่อนไขว่าคอมพิวเตอร์จะใช้เป็นสถานีมัลติมีเดียชนิดหนึ่ง) หากจะทำเฉพาะงานในสำนักงานบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและใช้เฉพาะแอปพลิเคชันสำนักงาน ดังนั้น RAM 1-2 กิกะไบต์ก็เพียงพอแล้ว แน่นอน ถ้าผู้ใช้จะใช้พีซีสำหรับทั้งเกมและแอพพลิเคชั่นในสำนักงาน จะเป็นการดีกว่าถ้าจะเพิ่มปริมาณ RAM ให้สูงสุด